วรรณคดีและวรรณกรรมม.4


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
คำนมัสการคุณานุคุณ คำชี้แจง
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้มีพระกรุณาแสดงธรรมเทศนาสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากกิเลส และยกระดับจิตใจตนเองให้งดงาม ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข จากคำกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงคำนมัสการในข้อใด
       .   คำนมัสการพระธรรมคุณ
       .   คำนมัสการพระพุทธคุณ
       ค.   คำนมัสการมาตาปิตุคุณ
       .   คำนมัสการพระสังฆคุณ
2. คำนมัสการมาตาปิตุคุณ มีความสำคัญอย่างไร
       .   เป็นการระลึกถึงพระคุณของผู้มีพระคุณทั้งหลาย
       .   เป็นการระลึกถึงพระคุณของพระพุทธศาสนา
       .   เป็นการระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์
       ง.   เป็นการระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา
3. คำนมัสการคุณานุคุณมีคุณค่าด้านกลวิธีการแต่งอย่างไร
       .   การใช้สำนวนเปรียบเทียบถึงความรักที่ลูกมีต่อพ่อแม่
            ได้อย่างละเอียด ลึกซึ้ง
       ข.   การใช้สำนวนเปรียบเทียบให้เกิดความรู้สึกสะเทือน
           อารมณ์
       .   การเลือกสรรคำเหมาะกับเนื้อเรื่องและมีเสียงเสนาะ
       .   การเลือกใช้คำที่เข้าใจง่ายมีความหมายกว้าง
4. คำนมัสการคุณานุคุณมีความดีเด่นในเรื่องใด
       .   การเปรียบเทียบแบบพรรณนาเพื่อให้เห็นภาพลึกซึ้ง
       ข.   ความขัดแย้งในสังคม
       .   การเปรียบเทียบแบบอุปมาเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน
  .  ความรักในแง่มุมต่างๆ ของสังคม
5. บทอาขยานจากวรรณคดีเรื่อง คำนมัสการคุณานุคุณ  มีคุณค่าในด้านใด
       .   พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ และครูอาจารย์
       .   พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์ไทย
       .   พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในทุกศาสนา
       ง.   พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์

6. คำนมัสการคุณานุคุณบทใด แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบัง 16
       ก.   คำนมัสการพระธรรมคุณ, คำนมัสการพระสังฆคุณ
       ข.   คำนมัสการพระพุทธคุณ, คำนมัสการพระสังฆคุณ
       ค.   คำนมัสการอาจริยคุณ, คำนมัสการพระธรรมคุณ
       ง.   คำนมัสการมาตาปิตุคุณ, คำนมัสการพระพุทธคุณ
7. คำนมัสการพระสังฆคุณ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระสงฆ์ในด้านใดมากที่สุด
       ก.   เป็นผู้สืบทอดและเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
       .   เป็นผู้ให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่พุทธศาสนิกชน
       .   เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
       .   เป็นผู้ดูแลและบำรุงศาสนสถาน
8. บุคคลใดปฏิบัติตนได้สอดคล้องกับคำนมัสการอาจริยคุณ
       ก.   ใบเตยชอบนั่งสมาธิและสวดมนต์ก่อนเข้านอนทุกคืน
       .   ยงยุทธตั้งใจเรียนและไม่คุยในห้องเรียน
       .   แพรวาช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
       .   เอมอรตื่นมาใส่บาตรทุกวัน
9. ญาดาเป็นผู้มีน้ำใจแบ่งปันสิ่งของแก่ผู้อื่น และยังพูดจาไพเราะ ไม่พูดคำหยาบ ใครๆ จึงรักและอยากเป็นเพื่อนกับเธอ เนื่องจากเธอยึดหลักสังคหวัตถุ 4 ในการดำเนินชีวิต จากข้อความข้างต้น ญาดาประพฤติตนสอดคล้องกับคำนมัสการในข้อใด
       .   คำนมัสการพระธรรมคุณ
       ข.   คำนมัสการมาตาปิตุคุณ
       .   คำนมัสการพระพุทธคุณ
       .   คำนมัสการพระสังฆคุณ
10. พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มีพระคุณต่อมนุษย์อย่างไร
       .   เป็นผู้ทรงแสวงหาหนทางหลุดพ้นจากความทุกข์
           ทั้งปวงให้แก่มนุษย์
       .   เป็นผู้สืบทอดหลักธรรมอันเป็นหัวใจของมนุษย์ทั้งปวง
       ค.   เป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่ก่อประโยชน์ให้แก่มนุษย์ทั้งปวง
       .   เป็นผู้ให้กำเนิดมนุษย์ทั้งปวงโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน


หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
 ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
  1. การทำสงครามในศึกกะหมังกุหนิงไม่ได้เกิดจากสาเหตุใด
       ก.   ความรักระหว่างพ่อกับลูก
       ข.   ความรักระหว่างหนุ่มสาว
       ค.   การไม่รักษาสัจจะ
       ง.   การขยายอำนาจ
   2.  คำขึ้นต้นของละครในข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
       ก.   มาจะกล่าวบทไป ใช้เมื่อขึ้นตอนหรือ
           เนื้อความใหม่
       ข.   ครั้นถึง ใช้กับตัวละครที่เป็นกษัตริย์
       ค.   เมื่อนั้น ใช้กับตัวเอกของเรื่อง
       ง.   บัดนั้น ใช้กับตัวละครสามัญ
   3.  วรรณคดีเรื่อง อิเหนา ได้สอดแทรกวัฒนธรรมประเพณีของไทยเอาไว้ ยกเว้นข้อใด
       ก.   พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
       ข.   พระราชพิธีสมโภชลูกหลวง
       ค.   พระราชพิธีรับแขกเมือง
       ง.   พระราชพิธีโสกันต์
  4. วรรณคดีเรื่อง อิเหนา เข้ามาสู่ประเทศไทยได้อย่างไร
       ก.   เจ้าฟ้ากุณฑลและเจ้าฟ้ามงกุฎได้ทรงฟังนิทาน
          มาจากนางกำนัลชาวมลายู
       ข.   ครั้งเมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จไปเยือน
          เมืองชวา
       ค.   จากการติดต่อทางการค้ากับพ่อค้าเมืองชวา
       ง.   หมอสอนหนังสือชาวชวานำเข้ามาเผยแพร่
   5ใครเป็นผู้นำวรรณคดีเรื่อง อิเหนา แต่ละฉบับมาแก้ไขทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกันอย่างลงตัว
       ก.   สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯ กรมหลวง
          พิทักษ์มนตรี
       ข.   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
       ค.   พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
       ง.   เจ้าพระยาพระคลัง (หน)

6. พระจะไปดาหาปราบข้าศึก  หรือรำลึกถึงคู่ตุนาหงัน   จากบทประพันธ์นี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้พูดมีลักษณะอย่างไร
       ก.   ตัดพ้อต่อว่า             ข.     เหน็บแนม
       ค.  เศร้าโศก                ง.     หึงหวง
7.       บัดนั้น                       พระโหราราชครูผู้ยิ่งใหญ่
        รับรสพจนารถภูวไนย      คลี่ตำรับขับไล่ไปมา             
   เทียบดูดวงชะตาพระทรงยศ   กับโอรสถึงฆาตชันษา        
   ทั้งชั้นโชคโยคยามยาตรา       พระเคราะห์ขัดฤกษ์พาสารพัน
       จากบทประพันธ์นี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อในเรื่องใด
       ก.   ความเชื่อเรื่องการทำนายโชคชะตา
       ข.   ความเชื่อเรื่องการสะเดาะเคราะห์
       ค.   ความเชื่อในพิธีฟันไม้ข่มนาม
       ง.   ความเชื่อในพิธีต่ออายุ
   8.  คำประพันธ์ในข้อใด สะท้อนออกมาเป็นข้อคิดได้
       ก.   พี่ดังพฤกษาพนาวัน  จะอาสัญเพราะลูกเหมือน
          กล่าวมา
       ข.   จะชิงนางโฉมยงก็จงได้  ใครมีชัยก็จะสมปรารถนา
       ค.   แกล้งจะให้เกิดโกลาหล  ร้อนรนไปทั่วทุกเส้นหญ้า
       ง.   โอ้ว่าเสียดายตัวนัก  เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิต
  9. คำพูดใดแสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อชัดเจนที่สุด
       ก.   พี่ดังพฤกษาพนาวัน  จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา
       ข. ไหนไหนในจะตายวายชีวา  ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน 
       ค.   ผิดก็ทำสงครามดูตามที  เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน
       ง.   เอ็นดูนัดดาโศกาลัย  แม้มิได้อรทัยจะมรณา
10.   แม้มิยกพลไกรไปช่วย    ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี
อย่าดูแม้เปลวอัคคี         แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย          
      จากบทประพันธ์นี้ แสดงให้เห็นว่า ท้าวกุเรปันมีนิสัยอย่างไร
       ก.   ยึดเหตุผลของตนเองเป็นหลัก
       ข.   เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว
       ค.   พูดจริงทำจริง
       ง.   อารมณ์ร้าย


หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
นิทานเวตาล (เรื่องที่ 10)
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. หลักธรรมในด้านความเพียรพยายาม ปรากฏในตอนใดของนิทานเวตาล (เรื่องที่ 10)
       ก.   เวตาลมีความเพียรพยายามยั่วยุพระวิกรมาทิตย์
          ให้ตอบคำถามของตน
       ข.   โยคีศานติศีลมีความเพียรพยายามที่จะเอาชีวิต
          พระวิกรมาทิตย์
       ค.   พระวิกรมาทิตย์มีความเพียรพยายามที่ต้องปีน
          ต้นอโศกเพื่อจับตัวเวตาลหลายครั้ง
       ง.   โยคีศานติศีลมีความเพียรพยายามที่จะได้เวตาล
          มาบูชานางทุรคา
   2.  ข้อคิดที่ได้จากนิทานเวตาล (เรื่องที่ 10) คือเรื่องใด
       ก.   สอนให้รู้จักความพอดี ไม่โลภ ยับยั้งชั่งใจได้
       ข.   สอนให้ฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยม รู้เท่าทันผู้อื่น
       ค.   สอนให้รู้จักความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
       ง.   สอนให้รู้จักมีสติรับรู้ได้ รู้จักคิดวิเคราะห์ รู้จัก
          หักห้ามใจก่อนกระทำสิ่งต่างๆ
  3. ข้าพเจ้าขอถวายพระพรให้ทรงรับความสำราญ เป็นผลแห่งการที่ทรงนิ่งครั้งนี้ จากข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าพระวิกรมาทิตย์ทรงใช้หลักธรรมข้อใดในการเอาชนะเวตาล
       ก.   กตัญญู                ข.  ปัญญา
       ค.   มุทิตา                 ง.  ขันติ
   4.  ชาวอินเดียมีความเชื่อว่า ต้นอโศกเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งใด
       ก.   ความสงบเงียบ
       ข.   ความโศกเศร้า
       ค.   ความร่มเย็น
       ง.   ความรัก
5. การที่ผู้แต่งสร้างเงื่อนไขให้เวตาลเป็นศพที่พูดได้ และผู้จับจะต้องไม่พูดอะไรระหว่างที่นำเวตาลมาให้โยคี มิฉะนั้นเวตาลจะลอยไปแขวนที่ต้นอโศกตามเดิมนั้น เงื่อนไขดังกล่าวให้แนวคิดเรื่องการพูดตรงกับข้อใด
       ก.   พูดไปสองไพเบี้ย  นิ่งเสียตำลึงทอง
       ข.   ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
       ค.   พาทีมีสติรั้ง  รอคิด
       ง.   พลั้งปากเสียศีล  พลั้งตีนตกต้นไม้

6. ผู้แต่งนิทานเวตาล (เรื่องที่ 10) มีจุดมุ่งหมายอย่างไร
       ก.   ให้ความบันเทิงสนุกสนานผ่อนคลาย
       ข.   ให้ความบันเทิงและแทรกคติธรรม
       ค.   ให้คติธรรม หลักประพฤติปฏิบัติสอนใจ
       ง.   ให้ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อและวัฒนธรรมของ
          คนอินเดียโบราณ
   7.  หญิงที่พระราชาพบในป่ามักจะงามกว่าหญิงที่จะหาได้    ในกรุง มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
       ก.   พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น
       ข.   ช้างเผือกเกิดในป่า
       ค.   วานรได้แก้ว
       ง.   กาในฝูงหงส์
   8.  ข้าศึกใช้ทองคำแลเหล็กเป็นอาวุธ คือ ใช้ทองคำซื้อน้ำใจนายทหารและไพร่พลของพระราชาให้เอาใจออกห่างพระองค์ และใช้เหล็กเป็นอาวุธฆ่าฟันคนที่ซื้อน้ำใจไม่ได้  จากข้อความข้างต้นตรงกับสุภาษิตใด
       ก.   แข็งเท่าแข็ง เงินง้างอ่อนได้ ดังถวิล
       ข.   ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
       ค.   กินบนเรือน ขี้บนหลังคา
       ง.   เกลือเป็นหนอน
9. พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น รัตนกวี คำที่ขีดเส้นใต้มีความหมายอย่างไร
       ก.   ผู้มีผลงานมากมายในด้านการประพันธ์บทกลอน
       ข.   ผู้มีความยอดเยี่ยมในด้านการประพันธ์บทกลอน
       ค.   ผู้มีความรู้ความสามารถ
       ง.   ผู้มีความสำคัญยิ่ง
10. ค่านิยมในอินเดียที่ว่า บ้านของผู้เป็นใหญ่ในครอบครัวนั้น ถ้าไม่มีแม่เรือนก็เป็นบ้านที่ว่างเปล่า หมายความว่าอย่างไร
       ก.   หญิงที่เป็นภรรยามีหน้าที่ในการปรนนิบัติสามี
          อย่างปฏิเสธไม่ได้
       ข.   บ้านน่าอยู่ต้องมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดบ้าน
          อยู่เสมอ
       ค.   ชายจะมีภรรยาได้หลายคน โดยเฉพาะชายที่มี
          ยศศักดิ์
        ง.  ครอบครัวที่ดีจะต้องพร้อมไปด้วยพ่อ แม่ และลูก

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
นิราศนรินทร์คำโคลง
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. นายนรินทรธิเบศร์ ได้แต่งนิราศนรินทร์คำโคลงไว้เมื่อใด
       ก.   เมื่อต้องเดินทางกับทัพหน้าไปสังเกตการณ์
          ทัพพม่ายังเมืองตะนาวศรี
       ข.   เมื่อต้องเดินทางกับทัพหน้าไปปราบพม่ายัง
          บางสะพาน
       ค.   เมื่อต้องเดินทางไปปราบหัวเมืองฝ่ายใต้ที่คิดกบฏ
       ง.   เมื่อต้องเดินทางกับทัพหลวงไปปราบพม่า
   2.  นิราศนรินทร์คำโคลงมีเนื้อหาสำคัญอย่างไร
       ก.   การคร่ำครวญถึงหญิงที่รัก
       ข.   การคร่ำครวญถึงชายที่รัก
       ค.   การคร่ำครวญถึงลูกที่รัก
       ง.   การคร่ำครวญถึงพี่ที่รัก
  3. นิราศนรินทร์คำโคลงมีลักษณะเด่นอย่างไร
       ก.   เป็นนิราศแท้ที่มีความไพเราะที่สุดของโลก
       ข.   เป็นนิราศแท้ที่มีความไพเราะที่สุดเรื่องหนึ่งของไทย
       ค.   เป็นนิราศเรื่องแรกของไทยที่แต่งขึ้นในสมัย
          กรุงศรีอยุธยา
       ง.   เป็นนิราศเรื่องแรกของไทยที่มีชื่อเสียงที่สุด
   4เพราะเหตุใด นิราศนรินทร์คำโคลงจึงได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่า เป็นยอดของนิราศคำโคลง
       ก.   เพราะเป็นนิราศคำโคลงที่มีสำนวนโวหารดีที่สุด
          ในโลกและมีคุณค่าด้านการประพันธ์มากที่สุด
       ข.   เพราะเป็นนิราศคำโคลงที่มีสำนวนโวหารอัน
          ไพเราะและมีคุณค่าด้านวรรณศิลป์
       ค.   เพราะเป็นนิราศคำโคลงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย
       ง.   เพราะเป็นนิราศคำโคลงเรื่องแรกของไทย
5. นิราศนรินทร์คำโคลงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ไทยตอนใด
       ก.   การทำสงครามระหว่างไทยกับพม่าที่เมือง
          ดอนเจดีย์เมืองสุพรรณบุรี
       ข.   การทำสงครามระหว่างไทยกับพม่าที่เมือง
          ทุ่งลาดหญ้าเมืองกาญจนบุรี
       ค.   การทำสงครามระหว่างไทยกับพม่าที่เมือง
          ด่านสิงขรเมืองประจวบคีรีขันธ์
       ง.   การทำสงครามระหว่างไทยกับพม่าที่เมืองถลาง
          และเมืองชุมพร

6. ข้อใดเป็นคุณค่าทางวรรณศิลป์ของนิราศนรินทร์คำโคลงในด้านการเลือกสรรคำที่มีเสียงเสนาะสัมผัสสระและอักษร
       ก.   โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม  อยู่ร้อนฤาเห็น
       ข.   สารสั่งทุกหย่อมหญ้า  ย่านน้ำลานาง
       ค.   บาปใดที่โททำ  แทนเท่า  ราแม่
       ง.   สุริยจันทรขจาย  จากโลก ไปฤา
   7.  นิราศนรินทร์คำโคลงมีคุณค่าด้านสังคมอย่างไร
       ก.   สะท้อนสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยใน
          สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
       ข.   จรรโลงวัฒนธรรมและศีลธรรมในสมัยสุโขทัย
       ค.   จรรโลงวัฒนธรรมและศีลธรรมในสมัยธนบุรี
       ง.   สะท้อนสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยใน
          สมัยรัตนโกสินทร์ตอนปลาย
8.     จำใจจากแม่เปลี้อง        ปลิดอก  อรเอย 
       เยียวว่าแดเดียวยก        แยกได้
       สองซีกแล่งทรวงตก       แตกภาค  ออกแม่
       ภาคพี่หนึ่งไว้               แนบเนื้อนวลถนอม 
      จากคำประพันธ์ข้างต้น ผู้แต่งมีความรู้สึกอย่างไร
       ก.   กังวลใจ                 ข.  เป็นห่วงเป็นใย
       ค.  อาลัยอาวรณ์           ง.  สงสัย
9.    “ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า     แจกแสงจ้าเจิดจันทร์            
       เพียงรพิพรรณผ่องด้าว    ขุนหาญห้าวแหนบาท        
       รพิพรรณ มีความหมายว่าอย่างไร
       ก.   แสงอาทิตย์
       ข.  แสงจันทร์
       ค.   แสงของดวงดาว
       ง.   แสงของพระธรรม
10.   ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำ    สงสาร อรเอย                      
      จรศึกโศกมานาน            เนิ่นช้า 
       เดินดงท่งทางละหาน       หิมเวศ     
       สารสั่งทุกหย่อมหญ้า    ย่านน้ำลานาง
      หิมเวศ มีความหมายว่าอย่างไร
ก.   ลำธารใหญ่           
ข.  ที่พักผ่อน
ค.   ทางเดิน                
      ง.   ป่าหิมพานต์

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
หัวใจชายหนุ่ม
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. เรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งใด
       ก.   ความรักระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว
       ข.   ความนึกคิดและสภาพของสังคมไทย
       ค.   เรื่องราวความผูกพันระหว่างเพื่อน
       ง.   เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่ม
   2.  ข้อใดกล่าวถึงเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ได้ถูกต้อง
       ก.   ตัวละครเป็นชายหนุ่มนักเรียนนอกที่เพิ่งเดินทาง
          กลับจากฝรั่งเศส
       ข.   อุไรเป็นตัวละครที่มีคุณสมบัติเป็นหญิงไทยผู้มี
          มารยาทงดงาม รักนวลสงวนตัว
       ค.   ตัวละครเดินทางกลับประเทศไทยโดยทางเรือ
          ขณะเขียนจดหมายฉบับแรกเขาอยู่ในเรือ โอยามะมะรู
       ง.   จดหมายทุกฉบับในเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม เป็น
          จดหมายที่ประพันธ์เขียนถึงประเสริฐ
   3.  การที่ประพันธ์พยายามมองหาหญิงสาวในเรือเพื่อจะได้สมาคมด้วย แสดงว่าประพันธ์เป็นคนอย่างไร
       ก.   เจ้าชู้
       ข.   มีมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ
       ค.   รักความสนุกสนาน
       ง.   มีความสามารถในการเต้นรำ
   4.  แน่ทีเดียวฉันไม่ได้ปล่อยให้โอกาสเช่นนั้น เปลืองเปล่า และภายในเวลา 2 ชั่วโมง ที่ไป        ดูไฟนั้น นับว่าฉันกับแม่อุไรได้รู้จักกันดีเกือบเท่ากับคนที่ได้คุ้นเคยกันมาแล้วตลอดชีวิต จากพฤติกรรมของตัวละครข้างต้น สอดคล้องกับสำนวนสุภาษิตใด
       ก.   ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
       ข.   กินบนเรือน  ขี้บนหลังคา
       ค.   มือถือสาก ปากถือศีล
  ง.   ชิงสุกก่อนห่าม
5. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง หัวใจชายหนุ่ม โดยมีพระประสงค์อย่างไร
       ก.   เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต
       ข.   เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในวารสารข้าราชการ
ค.  เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือแบบเรียน ภาษาไทย
       ง.   เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือปฐมนิเทศของ
          นักศึกษาใหม่
6. สภาพสังคมในเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม เป็นอย่างไร
       ก.   การหย่าร้างเป็นเรื่องเสื่อมเสียวงศ์ตระกูล
       ข.   ผู้ชายปฏิเสธการคลุมถุงชนได้ หากไม่พอใจ
       ค.   การที่ผู้ชายมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องธรรมดา
       ง.   ผู้หญิงสามารถไปไหนมาไหนได้ตามความสบายใจ
  7. จากสำนวนสุภาษิต ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน สอดคล้องกับเหตุการณ์ใดในเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม
       ก.   ประพันธ์พอใจที่จะเลือกคู่รักด้วยตนเอง และ
          ไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชน
       ข.   เมื่อประไพรู้ว่า ประพันธ์พี่ชายของตนพอใจในอุไร
          จึงได้เป็นแม่สื่อชักนำให้ทั้งคู่
       ค.   เมื่อประพันธ์ทราบเรื่องการคบหาของอุไรกับพระยา
          ตระเวนนคร จึงขอหย่าเพื่อให้อุไรได้ทำตามต้องการ
       ง.   ประพันธ์พยายามเอาใจอุไรทุกอย่าง เพื่อให้หล่อน
          รู้สึกพอใจในตัวเขา
   8.  ลักษณะนิสัยของอุไรในข้อใด ที่สังคมไทยไม่ยอมรับ    มากที่สุด
       ก.   ไม่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
       ข.   ไม่รักนวลสงวนตัว
       ค.   มีเพื่อนผู้ชายมากหน้า
       ง.   ชอบเที่ยวกลางคืน
9. จากเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6
       ก.   มีการแสดงละครพูดที่ตัวละครเป็นชายจริงหญิงแท้
       ข.   รัฐบาลส่งเสริมให้คนไทยรับวัฒนธรรมต่างชาติ
          เพื่อความทันสมัย
       ค.   นักเรียนนอกเรียกร้องให้ผู้ชายไทยมีภรรยาหลายคน
        ง.     การเดินทางโดยสารด้วยรถไฟ
10.   ข้อใดแสดงว่า พระพินิฐพัฒนากรและภรรยา เป็นผู้ ศิวิไลซ์ ตามความคิดของประพันธ์
       ก.   อนุญาตให้ประพันธ์และอุไรแต่งงานกันโดยง่าย
       ข.   ยอมให้ลูกสาวคุยกับผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ
       ค.   ตามทันค่านิยมแบบตะวันตก
       ง.   ใช้ของที่มีราคาแพง



หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
ทุกข์ของชาวนาในบทกวี
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
  1. ข้อใดแสดงให้เห็นความขัดแย้ง
       ก.   หว่านข้าวในฤดูใบไม้ผลิ ข้าวเมล็ดหนึ่งจะ
          กลายเป็นหมื่นเมล็ดในฤดูใบไม้ร่วง
       ข.   ข้าวแต่ละเม็ดคือความยากแค้นแสนสาหัส
       ค.   รอบข้างไม่มีนาที่ไหนทิ้งว่าง แต่ชาวนาก็ยังอดตาย
       ง.   เหงื่อหยดบนดินภายใต้ต้นข้าว
   2น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง    และน้ำแรงอันหลั่งริน           
       สายเลือดกูทั้งสิ้น     ที่สูซดกำซาบฟัน                
       กำซาบ มีความหมายอย่างไร
       ก.   กลืน                     
ข.  ซึมเข้าไป
       ค.   เคี้ยว                    
ง.  กระแทก
   3.  เพราะเหตุใด หลี่เชิน จึงกล่าวในบทกวีไว้ว่า แม้ชาวนาจะทำนามากแค่ไหน  แต่สุดท้ายก็ต้องอดตาย
       ก.   เพราะชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องราคาข้าว
       ข.   เพราะฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน
       ค.   เพราะผลผลิตที่ได้ตกถึงชาวนาน้อยมาก
       ง.   เพราะที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์
   4.  เหตุใดข้าวในประเทศไทยจึงมีราคาต่ำกว่าผลผลิตอื่นๆ
       ก.   ข้าวที่ผลิตได้มีคุณภาพต่ำ
       ข.   ผลผลิตมีมากเกินความต้องการของผู้บริโภค
       ค.   ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารประเภท
          อื่นมากขึ้น
       ง.   รัฐบาลควบคุมราคา เพราะข้าวเป็นอาหารหลัก
          ที่สำคัญ
   5. ในปัจจุบันชาวนาละทิ้งการปลูกข้าว แล้วหันไปประกอบอาชีพอุตสาหกรรมมากขึ้น มาจากสาเหตุใด
       ก.   เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยม
       ข.   ได้เรียนรู้ทักษะใหม่
       ค.   ไม่เหนื่อย
       ง.   มีรายได้แน่นอนทุกเดือน

6. เพราะเหตุใด หลี่เชินจึงสามารถบรรยายความทุกข์ยากของชาวนาในบทกวีได้อย่างชัดเจน
       ก.   เพราะหลี่เชินเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น
       ข.   เพราะหลี่เชินเป็นผู้ใหญ่บ้าน
       ค.   เพราะหลี่เชินเป็นชาวนา
       ง.   เพราะหลี่เชินเป็นพ่อค้า
   7เทคนิคการเขียนบทกวีของหลี่เชินมีลักษณะอย่างไร
       ก.   บรรยายโดยถ่ายทอดเสมือนชาวนาเป็นผู้มา
          บรรยายเอง
       ข.   บรรยายแบบอธิบายขั้นตอนในการทำนาของชาวนา
       ค.   บรรยายแบบสิ่งที่คนพบเห็นมาให้ผู้อ่านเข้าใจ
       ง.   บรรยายภาพเหมือนจิตรกรวาดภาพ
   8.  บทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ แสดงความรู้สึกอย่างไร
       ก.   เห็นใจชาวนา
       ข.   สงสารชาวนา
       ค.   เข้าข้างชาวนา
       ง.   เวทนาชาวนา
   9. ข้อใดเป็นข้อความแสดงข้อเท็จจริง
       ก.   ส่วนจิตร ภูมิศักดิ์ ใช้ชีวิตเสมือนกับนำชาวนามา
          บรรยายเรื่องของตนให้ผู้อ่านฟังด้วยตนเอง
       ข.   เรื่องความทุกข์ของชาวนาในบทกวี ก็คงยังจะเป็น
          แรงสร้างความสะเทือนใจให้แก่กวียุคคอมพิวเตอร์
          สืบต่อไป
       ค.   อย่าว่าแต่การลำเลิกทวงบุญคุณเลยความช่วยเหลือ
          ที่สังคมมีต่อคนกลุ่มนี้ในด้านของปัจจัยในการผลิต
          การพยุงหรือการประกันราคา และการรักษาความ
          ยุติธรรมทั้งปวง ก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้
       ง.   กวีผู้นี้รับราชการมีตำแหน่งเป็นข้าราชการ
          ส่วนท้องถิ่นอยู่ในชนบท
10. แนวความคิดของจิตร ภูมิศักดิ์ และหลี่เชิน มีความสอดคล้องกันอย่างไร
       ก.   ให้เวทนาชาวนา
       ข.   ให้ช่วยเหลือชาวนา
       ค.   ให้ประกอบอาชีพชาวนา
       ง.   ให้เห็นถึงความทุกข์ยากของชาวนา


หน่วยการเรียนรู้ที่ 7
มงคลสูตรคำฉันท์
ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. “อีกหนึ่งวินัยอัน   นรเรียนและเชี่ยวชาญ”  จากข้อความในมงคลสูตรข้างต้น ตรงกับพฤติกรรมในข้อใด
       ก.   อุษาช่วยเหลืองานพ่อแม่  ก่อนมาโรงเรียนทุกวัน
       ข.   ปวีณาไม่เคยมาโรงเรียนสายเลยสักวัน
       ค.   กนกขวัญและอาทิตย์ชวนกันไปค้นคว้าความรู้ใน
            ห้องสมุดอยู่เสมอ
       ง.   แม้โรงเรียนกับบ้านของเบญจวรรณจะอยู่ไกลกันมาก
            แต่เขาก็ไม่เคยท้อแท้ในการเดินทางมาโรงเรียน
   2.  “ทุกๆ วัน สันติจะนำอาหารที่เหลือจากโรงอาหารของโรงเรียนมาให้สุนัขและแมวจรจัดที่อาศัยอยู่บริเวณนอกโรงเรียน เพราะเขาเห็นว่า สุนัขและแมวเหล่านี้ ไม่ได้รับการดูแลจากผู้ใดเลย” การกระทำของสันติ ตรงกับหลักมงคลสูตร 38 ประการ ในข้อใด
       ก.   ให้ทาน ณ กาลควร
       ข.   ความงดประพฤติบาป
       ค.   กอบกรรมะอันไร้     ทุษะกลั้วและมัวมล
       ง.   อีกหนึ่งวินัยอัน       นรเรียนและเชี่ยวชาญ
  3. การปฏิบัติตามมงคลสูตรในข้อใด ที่มนุษย์ปุถุชนทำได้ยากยิ่ง
       ก.   เห็นแจ้ง ณ สี่องค์     พระอรียสัจอัน
       ข.   ความได้สดับมาก     และกำหนดสุวาที
       ค.   สำรวมวรินทรีย์       และสุราบ่เมามล
       ง.   ยินดี ณ ของตน       บ่มิโลภทยานปอง
   4มงคล 38 ประการ เกิดขึ้นได้อย่างไร
       ก.   พระพุทธเจ้าทรงตรัสสั่งสอนแก่เหล่าสาวก
       ข.   พุทธสาวกต้องการหลักในการดำเนินชีวิต
       ค.   พระพุทธเจ้าทรงค้นพบความจริงในการดำเนินชีวิต
       ง.   เทวดาทูลถามพระพุทธเจ้าถึงสิ่งที่เป็นมงคล
  5.  มงคลในข้อใดที่สอนให้มีความสันโดษ
       ก.   อีกหมั่นประพฤติควร     ณ สภาวะแห่งตน
       ข.   การงานกระทำไป         บ่มิยุ่งและสับสน
       ค.   เพียรเผากิเลสล้าง         มละโทษะยายี
  ง.   ยินดี ณ ของตน
6. “เทวามนุษย์ทั่ว     พหุภพประเทศใน                     
   หมื่นจักรวาลได้     ดำริห์สิ้น  จิรังกาล  
    จิรังกาล มีความหมายว่าอย่างไร
       ก.   ความทุกข์ทรมาน
       ข.   เวลาช้านาน
       ค.   การรอคอย
       ง.   ความสงสัย
   7.  มงคลในข้อใดที่มีความสำคัญน้อยที่สุด ขณะที่กำลังอยู่ในวัยเรียน
       ก.   หนึ่งกราบและบูชา     อภิบูชนีย์ชน
       ข.   ความได้สดับมาก       และกำหนดสุวาที
       ค.   หนึ่งคบกะบัณฑิต       เพราะจะพาประสบผล
       ง.   ให้ทาน ณ กาลควร     และประพฤติสุธรรมศรี
  8. แนวคิดสำคัญของมงคลสูตร เป็นอย่างไร
       ก.   ความเจริญในชีวิตเกิดจากการปฏิบัติของตนเองทั้งสิ้น
       ข.   ความเจริญในชีวิตถือว่าเป็นมงคลอันประเสริฐยิ่ง
       ค.  มงคลในพระพุทธศาสนาคือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
       ง.   ควรใช้ความรู้ของตนเองในทางที่ถูกต้องตามทำนอง
            คลองธรรม
  9. หน้าที่ของลูกที่ดี สอดคล้องกับมงคลสูตรข้อใดมากที่สุด
       ก.   ความไม่ประมาทใน     พหุธรรมะโกศล
       ข.   หนึ่งกราบและบูชา      อภิบูชนีย์ชน
       ค.   อีกรู้คุณาของ            นรผู้ประคองตน
       ง.   อีกคำเพราะบรรสาน    ฤดิแห่งประชาชน
10.  “จิตใครผิได้ต้อง              วรโลกะธรรมศรี
        แล้วย่อมบ่พึงมี               จะประหวั่นฤกังวัล”
      โลกะธรรมศรี หมายถึงข้อใด
       ก.   โลกที่สงบสุข
       ข.   โลกที่ทำให้มนุษย์รู้แจ้งเห็นจริง
       ค.   สิ่งที่มนุษย์กำหนดได้และกำหนดไม่ได้
       ง.   สิ่งที่มนุษย์พึงปรารถนาและไม่พึงปรารถนา

หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก
 ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
  1. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก
       ก.   มหาเวสสันดรชาดกที่แปลเป็นภาษาไทยเล่มแรก
            คือ มหาชาติคำหลวง
       ข.   อินเดียฝ่ายเหนือใช้คำประพันธ์ประเภทฉันท์แต่ง
            มหาเวสสันดรชาดกเป็นภาษาบาลี
       ค.   มีผู้สันนิษฐานว่า การแปลเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก
            มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี
       ง.   เรื่องมหาชาติ มีที่มาจากเหตุการณ์ครั้งที่พระพุทธ-
            องค์ประทับอยู่ที่นิโครธารามมหาวิหาร
   2.  ฝนโบกขรพรรษ มีความสำคัญอย่างไร
       ก.   เป็นต้นเหตุให้มีการเทศน์พระมหาเวสสันดรชาดก
       ข.   มีการบวงสรวงให้ตกในพิธีสำคัญของกรุงกบิลพัสดุ์
       ค.   พระพุทธองค์บันดาลให้ตกเพื่อยุติสงครามระหว่าง
            พระญาติ
       ง.   เป็นการแสดงยมกปาฏิหาริย์ของพระพุทธองค์ให้
            พระประยูรญาติละทิฐิมานะ
   3.  “เมื่อบูรพนิมิตปรากฏแก่พระผสุดีเทพกัญญา เป็นเหตุจะจุติ สิ้นพระชนมพรรษานิราศ  ร้างจากทิพยสถาน” จากข้อความข้างต้น จุติ มีความหมายว่าอย่างไร
       ก.   เกิด                       ข.  ตาย
       ค.   เคลื่อน                  ง.  ล่องลอย
   4.  กัณฑ์มหาพนให้ข้อคิดตรงกับสุภาษิตสำนวนไทยว่าอย่างไร
       ก.   หน้าเนื้อใจเสือ
       ข.   อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน
       ค.   ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
       ง.   คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ
  5.   ข้อคิดใดที่ไม่ปรากฏในเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก
       ก.   ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
       ข.   การเคารพนับถือผู้ที่มีความรู้
       ค.   การให้อภัยแก่ผู้ที่ทำความผิด
  ง.   ความสุขของมนุษย์คือการได้ในสิ่งที่ปรารถนา
6. การฟังเทศน์มหาชาติจะได้รับอานิสงส์อย่างไร
       ก.   เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วจะได้พบพระศรีอาริย์พุทธเจ้า
            ในอนาคต
       ข.   เมื่อเกิดใหม่ในชาติหน้าจะได้เกิดเป็นเทวดา
       ค.   เมื่อตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุด
       ง.   เมื่อเกิดใหม่ในชาติหน้าจะได้อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
   7มหาเวสสันดรชาดกมีคุณค่าด้านปัญญาและความคิดอย่างไร
       ก.   การทำบุญจะต้องทำด้วยจำนวนเงินที่มีค่ามากเท่านั้น
       ข.   การทำบุญต้องอธิษฐานจิตให้มั่นคงในคุณความดี
       ค.   การทำบาปต้องไม่มากจนเกินไป
       ง.   การทำบาปต้องไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
   8.  ลักษณะของมหาชาติภาคกลางแตกต่างจากภาคใต้อย่างไร
       ก.   มหาชาติภาคใต้เน้นการพรรณนาความน้อยกว่า
            ภาคกลาง
       ข.   มหาชาติภาคใต้ไม่เน้นลักษณะเฉพาะ
       ค.   มหาชาติภาคกลางเน้นการพรรณนาความน้อยกว่า           ภาคใต้                        
      ง.    มหาชาติภาคกลางไม่นิยมเล่นคำและเล่นเสียงสัมผัส
   9. “ผู้ใดจักมากลางไพรเขียวป่าไม้ ผู้ใดพ้อยจักมาผ่าไม้ไว้  หื้อเป็นหลัว ผู้ใดจักมาช่วยกู้พี่ตุ้มหัวนางหนุนหมอนและห่มผ้า ผู้ใดพ้อยจักมาตักน้ำช่วยหน้าแม่อุดม...”   จากบทมหาชาติข้างต้นมีลักษณะอย่างไร
       ก.   มีความไพเราะ และใช้คำอย่างอลังการ
       ข.   มีการพรรณนาความที่ชัดเจน
       ค.   มีการใช้คำที่มีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น
       ง.   มีการใช้คำง่ายๆ ไม่เน้นการพรรณนาความอย่าง
            พิสดาร
10. มหาเวสสันดรชาดกมีอิทธิพลต่อสังคมไทยอย่างไร
       ก.   เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้เจริญก้าวหน้า
       ข.   เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้ร่ำรวย
       ค.   เป็นแนวทางในการบำเพ็ญตนอย่างผู้เสียสละ
       ง.   เป็นแนวทางในการบำเพ็ญตนให้มีญาณแก่กล้า


2 ความคิดเห็น: